ซูริค –  หมู่บ้านเอกีเชม – หมู่บ้านกอลมาร์ - สตราสบูร์ก - ตลาดคริสต์มาส - หมู่บ้านริเบอร์วิลล์ - ริคเวียร์-บาเซิล - ตลาดคริสต์มาส -  ซูริค- ยอดเขาริกิ - ล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น -ลูเซิร์น - ซุก - โคโม - ทะเลสาบโคโม - เวโรนา - ซิมิโอเน่ - ปาร์มา  - OUTLET

LOST IN X MAS MARKET สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี 8วัน 5 คืน โดยสายการบิน การ์ต้า (QR)

รหัสทัวร์
: QEGO3ZRH-QR001
รหัสโปรแกรม
สายการบิน
: Qatar Airways
avatar-img
ระยะเวลา
มื้ออาหาร
: 13 มื้อ
Product
: Go365Travel
เส้นทาง
: ปาร์มา เวโรนา ซูริค ลูเซิร์น โคโม ซูก

Highlightไฮไลท์ทัวร์

ซูริค – หมู่บ้านเอกีเชม – หมู่บ้านกอลมาร์ - สตราสบูร์ก - ตลาดคริสต์มาส - หมู่บ้านริเบอร์วิลล์ - ริคเวียร์-บาเซิล - ตลาดคริสต์มาส - ซูริค- ยอดเขาริกิ - ล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น -ลูเซิร์น - ซุก - โคโม - ทะเลสาบโคโม - เวโรนา - ซิมิโอเน่ - ปาร์มา - OUTLET
BKK
DOH
ไฟล์ทไป
เวลาออก
เวลาถึง
DOH
ZRH
ไฟล์ทไป
เวลาออก
เวลาถึง
MXP
DOH
ไฟล์ทกลับ
เวลาออก
เวลาถึง
DOH
BKK
ไฟล์ทกลับ
เวลาออก
เวลาถึง

กำหนดการเดินทาง

รหัสทัวร์ วันที่เริ่มเดินทาง วันที่เดินทางกลับ ราคาเริ่มต้น สถานะ
GO3ZRH5NMXPQR251209
09 ธ.ค. 256816 ธ.ค. 2568

79,900

เต็ม

รายละเอียดทัวร์

  • 15.00 น.

    คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สายการบิน QATAR (QR) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก

    18.55 น.

    ออกเดินทางสู่กรุงโดฮา ด้วยเที่ยวบิน QR835

    22.30 น.

    เดินทางถึงโดฮา รอเปลี่ยนเครื่อง
  • 02.40 น.

    เดินทางต่อสู่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเที่ยวบิน EK93

    07.00 น.

    เดินทางถึงท่าอากาศยานโคลเทิน เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) หลังจากนั้นผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร จากนั้นเดินทางต่อสู่ หมู่บ้านอองกีเชม (Eguisheim) ประเทศฝรั่งเศส หมู่บ้านที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “อีกหนึ่งหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส” อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของแคว้นอัลซาสอีกด้วย ท่านจะได้ชมชมความงดงามไปตามถนนก้อนกรวดอันคดเคี้ยวของหมู่บ้าน และตื่นตาตื่นใจไปกับความงดงามของเหล่าอาคาร บ้านเรือน ที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นยุคกลางไว้เป็นอย่างดี ชมความเก่าแก่ของอาคารไม้โบราณที่แต่งแต้มด้วยสีสันสีสดใส ชมลานน้ำพุที่สร้างในแบบเรเนซองส์ ห

    กลางวัน

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
    นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของไวน์แห่งแคว้นอาลซัส (Capitale des Vins d'Alsace) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้คงบรรยากาศของเมืองโบราณ โดยเฉพาะในตัวเมืองเก่าที่เรียงรายไปด้วยเรือนไม้เก่าแก่ ร้านค้าสวยงาม โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ คริสต์ศาสนสถาน และร้านค้าและที่อยู่ อาศัยที่คงสภาพเหมือนเมืองในยุคกลางได้อย่างดีสุดแห่งหนึ่งในประเทศ เมืองนี้มีคลองตัดไปมาจนได้รับสมญานามว่า “Little Venice” นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารเซ็นต์มาร์ติน (St. Martin church) โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากหินสีชมพูทั้งหลัง สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ.1234 - 1365 ถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองกอลมาร์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่สวยงามโอ่อ่า นำท่านเดินทางสู่เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) ประเทศฝรั่งเศส เมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส (Alsace) ที่มี 2 วัฒนธรรม คือฝรั่งเศสและเยอรมนี เนื่องจากผลัดกันอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา สตราสบูร์ก เป็นเมืองใหญ่มีสถาปัตยกรรมสมัยโบราณเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์ให้ชาวเมืองปัจจุบันได้ชื่นชม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตลาดคริสต์มาส (Christmas Market) โดยตลาดคริสต์มาสของเมืองสตาร์สบูร์กนั้นได้ชื่อว่าเป็นตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่ที่สุดของฝรั่งเศสโดยได้เริ่มมีการจัดมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1570 ทำให้เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งตลาดคริสต์มาส” และปัจจุบันยังได้รับการยอมรับกันว่าตลาดคริสต์มาสของเมืองสตาร์สบูร์กเป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่ดีที่สุดในโลก โดยแต่ละปีจะจัดโดยรอบเกาะกรอง ดีล (Grande Île ) เกาะมรดกโลกที่ตั้งอยู่ที่เขตเมืองเก่าของสตาร์สบูร์ก ให้ท่านเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาส โดยตลอดเทศกาลจะเต็มไปด้วยการประดับไฟตกแต่งเต็มถนน , ต้นคริสต์มาสขนาดยักษ์ , ร้านจำหน่ายสินค้าแฮนด์เมด ร้านจำหน่ายเครื่องประดับตกแต่งบ้าน ของที่ระลึก ขนม และอาหารพื้นเมือง รวมทั้งหมดกว่า 300 ร้าน และที่ห้ามพลาดสำหรับตลาดคริสต์มาสเมืองสตาร์สบูร์กก็คือ “ขนมเพรทเซล” (Pretzel) ขนมพื้นเมืองของแคว้นอัลซาส ทำจากแป้งพาย มีรูปร่างเชือกที่ผูกเป็นปมหรือคล้ายผีเสื้อ ผสมด้วยส่วนผสมชนิดต่างๆ เช่น ชีส น้ำตาล ช็อกโกแลต อบเชย เมล็ดพืช และถั่ว มีรสชาติออกไปทางเค็ม และจะเข้ากันได้ดีอย่างยิ่งเมื่อทานคู่กับเครื่องดื่มที่เป็นสัญลักษณ์ของตลาดคริสต์มาสอย่าง “ไวน์ร้อน” หรือ Mulled wine ไวน์แดงต้มผสมน้ำตาลและเครื่องเทศต่างๆ เช่น โป๊ยกั๊ก เม็ดยี่หร่า อบเชย วานิลลา เปลือกส้ม หรือ เลม่อน มีรสชาติเปรี้ยวและมีกลิ่นของเครื่องเทศ ชาวยุโรปนิยมทานกันในช่วงฤดูหนาว อิสระให้ท่านได้เดินเล่นตลาดคริสต์มาสตามอัธยาศัย

    ค่ำ

    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

    ที่พัก

    ORIGAMI หรือเทียบเท่า
  • เช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
    หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ หมู่บ้านริเบอร์วิลล์ (Ribeauvillé) อีกหนึ่งหมู่บ้านสวยแคว้นอัลซาส โดยที่นี่ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็น Ville Fleurie หรือ หมู่บ้านแห่งดอกไม้ บางช่วงอาจจะเจอการประดับประดาบ้านด้วยดอกไม้หลากสีสันต่างๆ เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ในการมาเยือนแคว้นอัลซาส นำท่านเดินทางสู่ เมืองริควีร์ (Riquewihr) เมืองในเส้นทางสายไวน์แห่งแคว้นอัลซาสที่มีชื่อเสียงในฝรั่งเศส นั่งรถผ่านชมบริเวณไร่องุ่นที่ปลูกกันตามแนวไหล่เขาที่ลดหลั่นไปมา ก่อนนำท่านเข้าไปเดินเล่นในตัวเมืองเก่าที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงาม บรรยากาศภายในหมู่บ้านจะคล้ายกับเดินเข้าไปเหมือนหลงอยู่ในเมืองแห่งเทพนิยาย เนื่องจากบ้านเกือบทุกหลังจะตกแต่ง และประดับประดาด้วยดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่น่ารักๆ เต็มไปหมด

    กลางวัน

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
    นำท่านเดินทางสู่ เมืองบาเซิล (Basel) เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศรองจากซูริค เป็นเมืองหลวงของรัฐบาเซิลชตัดท์ทางด้านเหนือของสวิส บริเวณเชื่อมต่อกับชายแดนฝรั่งเศสและเยอรมัน ทำให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางเข้าออก 3 ประเทศนี้ไปโดยปริยาย นำท่านเที่ยวชมย่านเมืองเก่าบาเซิล ที่มีอาคารบ้านเรือนสวยงามเก่าแก่กว่าร้อยปี รวมทั้งมีน้ำพุแทรกตัวตามจุดต่างๆกว่า 200 แห่ง ชมประตูเมือง Spalentor ซึ่งเป็น 1 ใน 3 แห่งของหอคอยตามแนวกำแพงเมืองเก่าที่หลงเหลืออยู่ โดยหอคอยแห่งนี้โดดเด่นด้วยยอดปลายแหลมมุงหลังคากระเบื้องสลับสีลายเขียวเหลืองคร่อมอยู่บนถนนและทางรถราง ชมจัตุรัสมาร์คพลาสซ์ (Marktplatz) ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลาว่าการเมือง (Rathaus) โดยบริเวณนี้มีตลาดนัดขายอาหาร, ผลิตภัณฑ์พื้นเมืองต่างๆเช่น ไส้กรอก ขนมปัง ผักผลไม้และไม้ดอกไม้ประดับ ชมมหาวิหารบาเซิล (Basel Munster) สร้างครั้งแรกเมื่อปี 1019 มหาวิหารหลังที่เห็นในปัจจุบันเป็นหลังที่ได้รับการซ่อมแซมหลังจากได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวเมื่อปี 1356 ด้วยสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ผสมโกธิคจากยุคกลางที่สวยโดดเด่นด้วยผนังทรายสีแดงด้านนอกรวมทั้งกระเบื้องมุมหลังคาสลับสี โดยมีสีเขียวเป็นหลักอันเป็นเอกลักษณ์ของหลังคาอาคารในเมืองแถบนี้ ภายในมีภาพกระจกสี ภาพจิตรกรรม ภาพแกะสลักนูนบรรยายเรื่องราวทางศาสนา ด้านหลังของวิหารมีต้นเชสนัตปลูกให้ร่มเงาอยู่หลายต้น รวมทั้งบ่อน้ำพุและม้านั่งยาวให้ได้นั่งชมวิวทิวทัศน์ฝั่ง หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตลาดคริสต์มาส (Christmas Market) เมืองบาเซิล โดยตลาดคริสต์มาสเมืองบาเซิลนั้นถือเป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่สวยงามและใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์. ตลาดจะจัดขึ้นที่ Barfüsserplatz, Münsterplatz, และ Claraplatz. พ่อค้าแม่ค้าและช่างฝีมือต่างนำสินค้ามาขายที่บู้ททรงกระท่อมไม้หลังเล็กๆ ใครก็ตามที่มองหาไอเดียของขวัญ สามารถหาแรงบันดาลใจได้จากสินค้าที่หลากหลายและบรรยากาศที่น่าหลงใหล อาหารรสเลิศมากมาย เช่น วาฟเฟิล ไวน์อุ่น ขนมปังขิงบาเซิลแท้ๆ ชีสสวิสแสนอร่อย หรือไส้กรอกย่างยอดนิยม ตลาดแห่งนี้คึกคักไปด้วยงานกิจกรรมก่อนคริสต์มาสมากมาย ครั้งหนึ่งตลาดคริสต์มาสที่ Basel เคยได้รับการโหวตให้เป็นตลาดคริสต์มาสที่ดีที่สุดในยุโรป ประจำปี 2021 ด้วย

    ค่ำ

    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

    ที่พัก

    HARRY’S HOME หรือเทียบเท่า
  • เช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
    จากนั้นนำท่าน นั่งรถไฟไต่เขาริกิ (Rigi) ที่ถือได้ว่าเป็นรถไฟไต่เขาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ที่เรียกได้ว่าเป็นรถไฟสายแรกของสวิตเซอร์แลนด์เลยก็ว่าได้ และยังเป็นอันดับ 2 รองจากยอดเขาวอชิงตัน ในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ในสหรัฐอเมริกา มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,798 เมตร สู่ ยอดเขาริกิ (Rigi Kulm) มีที่มาจากคำว่า Mons Regina แปลได้ว่า "ราชินิแห่งขุนเขา" (Queen of the mountains) เพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาอื่นๆ ได้รอบ 360 องศา

    กลางวัน

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองบนยอดเขา
    จากนั้นนำท่านลงจากเขาโดยกระเช้า เพื่อล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น (Lake Lucerne Cruise) ทะเลสาบสี่พันธรัฐที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีความงดงามของทัศนียภาพอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่โอบล้อมด้วยยอดเขาริกิ (MountRigi) และยอดเขาพิลาทุส (Mount Pilatus) ทำให้วิวทิวทัศน์ของทะเลสาบลูเซิร์นดูงดงามยิ่งขึ้น ทะเลสาบลูเซิร์นยังได้ชื่อว่าเป็น “ทะเลสาบที่สวยสุดในสวิตเซอร์แลนด์” อีกด้วย ให้ท่านได้ชื่นชมทัศนียภาพบริเวณรอบๆทะเลสาบลูเซิร์น นำท่านเที่ยวชม เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา นำท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น

    เย็น

    อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
    หลังจากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองซูริค

    ที่พัก

    HARRY’S HOME หรือเทียบเท่า
  • เช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
    จากนั้นเดินทางต่อสู่ เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ

    กลางวัน

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
    ออกเดินทางสู่ เมืองโคโม (Como) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองริมทะเลสาบที่สวยงามบริเวณพรมแดนอิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ทะเลสาบโคโมที่ล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์สูงตระหง่านอันงดงาม นำท่านชมทะเลสาบโคโม่ (Como Lake ) โดยทะเลสาบโคโม่นั้นตั้งอยู่ในจังหวัดโคโม่ แคว้นลอมบาร์เดียเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสามของอิตาลีแต่เรื่องความสวยงามนั้นมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยพื้นที่โดยรอบมีความยาวถึง 146 กิโลเมตรเลยทีเดียว
    หลังจากนั้นนำท่านสู่เมืองปาร์มา (Parma)

    ค่ำ

    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ปาร์มาแฮม)

    ที่พัก

    PARMA CONGRESS หรือเทียบเท่า
  • เช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองลา สเปเซีย (La Spezia) เมืองในเขตลิกูเรีย ตอนเหนือของอิตาลีอยู่ระหว่างเมืองเจนัว และ ปิซ่า ในบริเวณอ่าวลิกูเรหนึ่งในอ่าวที่มีความสําคัญทางด้านการค้าและการทหาร นําท่านโดยสารรถไฟสู่ หมู่บ้านชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี ที่มีความหมายว่า “ดินแดนทั้งห้า (Five Land)” ตั้งบนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนติดทะเลบริเวณชายฝั่งแคว้นลิกูเรีย ประกอบด้วยหมู่บ้าน 5 แห่ง ได้แก่ MONTEROSSO AL MARE, VERNAZZA, CORNIGLIA, MANAROLA และ RIOMAGGIORE โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้ มีหุบเขาล้อมรอบ ประกอบกันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้อีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมหมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ (Rio –Maggiore) อยู่ทางตอนใต้สุดของหมู่บ้านทั้งห้า เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และมีบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีตัดกับนํ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์ควอยซ์ อิสระให้ท่านชมความงดงามและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนําท่านสู่หมู่บ้านมานาโรล่า (Manarola) อาจได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เล็กเป็นอันดับสอง แต่มีความเก่าแก่ที่สุดในบรรดาหมู่บ้านทั้ง 5 ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338 มีความสวยงามที่ไม่แพ้หมู่บ้านอื่นๆ มีไวน์ท้องถิ่นที่ปลูกในพื้นที่ที่รสชาดเยี่ยมอีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านมอนเตรอสโซ อัล มาเร ( Monterosso al Mare) เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่และกว้างมากที่สุด มีหาดทรายยาวสวยงามที่สุดในชิงเกว แตร์เร

    เที่ยง

    อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวโรน่า (Verona) เมืองใหญ่อันดับ 2 ของแคว้นเวเนโต้รองจากเวนิส เมืองเวโรน่ายังได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 2000 อีกทั้งวิลเลียม เชกสเปียร์ นักกวี และนักเขียนบทละครชาวอังกฤษผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษและของโลก เขายังใช้บรรยากาศ และเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสองตระกูลในเวโรน่าแต่งเป็นละครโศกนาฏกรรมขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1595 เรื่อง โรมิโอกับจูเลียต นำท่านเดินชมอาคารบ้านเรือนสีสดใสสวยงามภายในจัตุรัสกลางเมืองที่คึกครื้นมีชีวิตชีวา จากนั้นพาท่านถ่ายรูปกับโรงละครโรมันกลางแจ้ง (Verona Arena) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างขึ้นเมื่อตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 โดยมีลักษณะเช่นเดียวกับโคลอสเซียมในกรุงโรมเพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งปัจจุบันยังคงมีการเปิดแสดงโอเปร่าหรือคอนเสิร์ตกลางเเจ้งในสนามกีฬาอยู่เป็นประจำ นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ บ้านเลขที่ 23 ของจูเลียต ชมระเบียงแห่งเรื่องราว โรแมนติกที่จูเลียตเฝ้ารอคอยพบโรมิโอทุกค่ำคืน และบริเวณหน้าบ้านยังมีรูปปั้นสำริดขนาดเท่าตัวจริงของจูเลียต พาเดินชมสัมผัสบรรยากาศ ตลาดคริสต์มาส (Christmas Market) สินค้าหลากหลายประเภท เช่น งานฝีมือ ของที่ระลึกแบบดั้งเดิม สินค้าทำมือ สบู่ทำมือ ลิเคียวร์ ช็อคโกแลต รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มแบบดั้งเดิม เช่น ไส้กรอก เบรตเซล และไวน์ร้อน

    ค่ำ

    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

    ที่พัก

    BEST WESTERN VERONA หรือเทียบเท่า
  • เช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่เมืองซีร์มิโอเน่ (Sirmione) เมืองแห่งป้อมปราการโบราณ เก่าแก่อายุนับ 2000 ปี ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเลสาบการ์ดา (Lake Garda) จากนั้นนำท่าน ถ่ายภาพด้านหน้าปราสาทเก่าแก่ของเมือง (The Scallger of Sirmione ) สร้างในปี 1277 ซึ่งเมืองนี้เคยอยู่ในการปกครองของตระกูล SCALIGER จากนั้นเดินเล่นชมเมืองเก่าชิมไอศรีมเจลาโต้ที่มีชื่อเสียงของอิตาลี หลากหลายร้านและของที่ระลึกอื่นๆ อิสระให้ท่านชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบการ์ด้า ซี่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่เกิดจากน้ำแข็งละลายจากเทือกเขาแอลป์

    เที่ยง

    อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
    นำท่านชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน และเป็นที่ตั้งของร้านค้า ชั้นนำมากมาย รวมถึงร้านค้าแบรนด์เนมชื่อดังของโลก อาทิเช่น LV, PRADA, GUCCI, TOD’S เป็นต้น ท่านสามารถถ่ายรูปเป็นที่ระลึกจากด้านในซึ่งเป็นอาคารกระจกที่เก่าแก่และสวยงาม
    ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมิลาน เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน

    22.10 น.

    ออกเดินทางสู่ ดูไบ โดยสายการบิน QR118
  • 05.55 น.

    เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติโดฮา เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง

    06.05 น.

    ออกเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย โดย เที่ยวบิน QR826

    19.25น.

    เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

มื้ออาหาร

วันที่ กำหนดการ เช้า กลางวัน ค่ำ
1กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ)
2โดฮา- ซูริค – หมู่บ้านเอกีเชม – หมู่บ้านกอลมาร์ - สตราสบูร์ก - ตลาดคริสต์มาสเมืองสตราสบูร์ก
3สตราสบูร์ก - หมู่บ้านริเบอร์วิลล์ - ริคเวียร์-บาเซิล - ตลาดคริสต์มาส - ซูริค
4ซูริค - ยอดเขาริกิ - ล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น -ลูเซิร์น - ซูริค
5ซูริค - ซุก - โคโม - ทะเลสาบโคโม - ปาร์มา
6ปาร์มา - นําท่านโดยสารรถไฟสู่มู่บ้านชิงเกว แตร์เร – เวโรนา - ตลาดคริสต์มาส
7เวโรนา - ซิมิโอเน่ – มิลาน - ดูโอโม - สนามบิน
8โดฮา- กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)

เงื่อนไขการจองทัวร์

1.      ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท + ค่าวีซ่า 5,900 บาท (ค่ามัดจำ + ค่าวีซ่า ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้) โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น

***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***

2.      ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า

ภายใน  3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ

3.      เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที

4.      หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

5.      การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่

6.      หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน  การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

1.         ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด (Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์           อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)

2.         ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ

3.         ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ

4.         ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า

5.         ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ

6.         ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ

7. ค่าประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด ความคุ้มครองเป็นตามกรมธรรม์ประกันภัย)

8.  ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)

1.         ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง

2.         ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 25 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น

3.         ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา

4.         ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง

5.         ค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้นรวมค่าบริการยื่นวีซ่า (5,900.-บาท)

6.         ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น  (12 ยูโร/ต่อท่าน)

7.         ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (24 ยูโร /ต่อท่าน)

GO3ZRH5NMXPQR251209

เดินทางวันที่ 09 ธ.ค. 2568 - 16 ธ.ค. 2568
เส้นทาง วันที่ เวลาเที่ยวบิน สายการบิน เที่ยวบิน
BKK - DOH 2025-12-09 2025-12-09 18:55 - 22:30 avatar-img QR835
DOH - ZRH 2025-12-10 2025-12-10 02:40 - 07:00 avatar-img QR093
MXP - DOH 2025-12-15 2025-12-16 22:10 - 05:55 avatar-img QR118
DOH - BKK 2025-12-16 2025-12-16 09:05 - 19:25 avatar-img QR826
ชวนเพื่อนไปเที่ยวด้วยกัน ให้เพื่อนสแกนเลย!
รหัสทัวร์ : QEGO3ZRH-QR001
ชวนเพื่อนไปเที่ยวด้วยกัน ให้เพื่อนสแกนเลย!