คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 8 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตส์ (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก

นำท่านออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 375

เดินทางถึง สนามบินดูไบ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร รถโค้ชรอรับท่านนำท่านเดินทางเข้าสู่เขตเมืองดูไบ เมืองหลักแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดินแดนแห่งทะเลทรายที่กลายมาเป็นมหานครแห่งความทันสมัยและมีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ นำท่านเดินทางสู่ Mall of the Emirates ห้างขนาดใหญ่ มีโรงภาพยนตร์ ลานโบว์ลิ่ง และร้านค้าอีกมากมาย รวมถึงร้านต่างๆ มีเวลาให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าแฟ่ชั่นมากมาย หรือท่านจะเข้าเล่นที่ Ski Dubai หนึ่งในสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

HOLIDAY INN AL MAKTOUM หรือ MILLENIUM JEDDAF หรือเทียบเท่า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ กรุงอาบูดาบี Abu Dhabi เมืองหลวงแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มีความเขียวขจีท่ามกลางตัวเมืองที่ทันสมัย จึงเป็นเมืองที่ได้รับสมญานามว่า Garden of Gulf และได้รับการย่องว่าเป็นสวรรค์แห่งทะเลทรายอีกด้วย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) นำท่านผ่านชมสถานที่สำคัญ ๆ ของเมือง ตลอดจนการสร้างบ้านเรือนที่มีความสวยงาม และเห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของเมือง แม้จะตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายอันแห้งแล้ง นำท่านเข้าชม Sheikh Zayed bin Sultan al Nahyan Grand Mosque สุเหร่าที่งดงามที่สุดของ U.A.E. มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก และเป็นสุเหร่าประจำประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ท่าน Sheikh สร้างไว้ก่อนท่านจะสวรรคต ใช้ระยะเวลาก่อสร้างรวมทั้งหมด 10 ปี ให้ท่านได้ชมพรมลายดอกไม้ผืนใหญ่ และโคมไฟ (Chandelier) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ราคาราว 30 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้าจากประเทศเยอรมัน ทำด้วยทองคำและทองแดง ** การเที่ยวชมมัสยิด ต้องแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ห้ามสวมกางเกงขาสั้นหรือเสื้อกล้าม ทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี โดยเฉพาะสุภาพสตรีต้องสวมใส่เสื้อผ้าที่มีความยาวคลุมถึงระดับข้อมือและข้อเท้า ปกปิดไหล่และทรวงอกให้มิดชิด ผู้หญิงจะต้องมีผ้าคลุมผม และต้องถอดรองเท้าก่อนเข้ามัสยิด **

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านแวะถ่ายรูปบริเวณชายหาดคอร์นิช เคียงคู่กับถนนคอร์นิชที่ความยาวกว่า 8 กิโลเมตร จุดที่เหมาะกับการพักผ่อนของชาวเมือง รวมถึงแวะถ่ายรูปกับอาคารอันสวยงามของโรงแรมเอมิเรตส์พาเลซ โรงแรมระดับ Luxury ของรัฐบาลอาบูดาบี บริหารโดยกลุ่มเคมปินสกี้ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2548 โดยใช้งบประมาณการก่อสร้างทั้งสิ้นประมาณ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ และจัดเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งของนครอาบูดาบี และแวะถ่ายรูปกับ Qasr Al Watan พระราชวังประธานาธิบดีและยังเป็นสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ของนครอาบูดาบี รวมถึงเป็นที่ตั้งของสำนักงานประธานาธิบดี รองประธานาธิบดีและมกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี ถือเป็นตัวอย่างความสง่างามและสถาปัตยกรรมแบบสหรัฐเอมิเรตส์ จากนั้นนำท่านเข้าชม Heritage Village หมู่บ้านพื้นเมืองจำลองความเป็นอยู่ของชาวเบดูอิน ที่เคยเร่ร่อนอยู่ในทะเลทราย อิสระให้ท่านถ่ายภาพพร้อมกับเลือกซื้อของที่ระลึก นำท่านแวะถ่ายรูป Ferrari World และให้ท่านเลือกซื้อของที่ระลึกที่เป็นแบรนด์เฟอร์รารี่ จากนั้นแวะ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่นครดูไบ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารหรือภัตตาคารของโรงแรม

HOLIDAY INN AL MAKTOUM หรือ MILLENIUM JEDDAF หรือเทียบเท่า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

ให้ท่านถ่ายภาพของพิพิธภัณฑ์แห่งอนาคต Museum of the Future อาคาร 7 ชั้นสีเงินทรงรีโครงสร้างแปลกตา เปิดให้บริการเมื่อ 22 ก.พ.2565 ที่ผ่านมา เป็นผลงานการออกแบบโดย Shaun Killa ถือเป็นโครงการล่าสุดของนครดูไบที่ตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและการท่องเที่ยวและเป็นการเปิดประตูสู่อนาคต และนำท่านถ่ายรูปกับ ดูไบเฟรม Dubai Frameสัญลักษณ์ใหม่ของดูไบ ซึ่งเป็นกรอบรูปฉาบทองคำความสูงขนาด 150 เมตร กว้าง 93 เมตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใช้เวลาในการก่อสร้างมาถึง 10 ปีเต็ม ด้วยจำนวนเงินประมาณ 43.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.39 พันล้านบาท จากนั้นนำท่าน นั่งเรือ Abra Ride สัมผัสมนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรมผ่านวิถีชีวิตสองฝั่งน้ำของแม่น้ำ Creek จากนั้นนำท่านสู่ ตลาดเครื่องเทศ (Gold & Spicy Souk) และตลาดทอง (Gold Souk) เป็นตลาดทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Jewelry ทุกประเภท เช่น มุข อัญมณีต่าง นำท่านชมโรงงานเครื่องหนังชั้นดีของดูไบ จากนั้นให้ท่านได้แวะถ่ายรูปในย่าน Al Bastakiya ย่านประวัติศาสตร์เก่าแก่ของดูไบ

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเปลี่ยนบรรยากาศโดยการเดินทางด้วยรถไฟ Mono Rail สู่ โครงการ The Palm Project โครงการสร้างพื้นที่อาศัยบนทะเล ราคาหลายหมื่นล้านของดูไบ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ที่พัก เพื่อเปลี่ยนเครื่องแต่งกายพร้อมตะลุยทะเลทราย ระหว่างทางแวะนำท่านชมโรงงานเครื่องประดับเพชรพลอย หมายเหตุ : ท่านที่เมารถ กรุณาทานยาแก้เมาล่วงหน้าอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง หรือควรแจ้งหัวหน้าทัวร์ให้ทราบก่อนไปทัวร์ทะเลทราย ทางทัวร์จะไม่รับผิดชอบ และไม่อนุญาตให้ผู้ที่เป็นโรคหัวใจขั้นรุนแรงนั่งรถไป Dune Safari โดยเด็ดขาด ** สำหรับท่านที่ไม่ร่วมเดินทาง Dune Safari ท่านต้องรอคณะอยู่ที่โรงแรม โดยทางบริษัทฯ ไม่สามารถคืนค่าทัวร์ให้ได้ รวมทั้งอาหารมื้อค่ำ **

นำท่านเดินทางไป ทัวร์ทะเลทราย Dune Safari & BBQ Dinner ** อย่าลืมเสื้อแจ็คเกต แว่นตากันแดด รองเท้าฟองน้ำ ติดตัวไปด้วย ** นำท่านขึ้นรถ 4WD (รถขับเคลื่อน 4 ล้อ) ไปทัวร์ทะเลทราย ท่านจะได้สนุกสนานและตื่นเต้นไปกับประสบการณ์อันแปลกใหม่ นั่งรถตะลุยไปบนเนินทรายทั้งสูงและต่ำสลับกันไป (Sand Dune) จากนั้นให้ท่านได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ในแคมป์กระโจมแบบอาหรับ ดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติกของพระอาทิตย์ตกดินที่แสนสวยงาม และสัมผัสชีวิตแบบชาวพื้นเมือง (เบดูอิน) อาทิ การสวมชุดพื้นเมืองชาวอาหรับ ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก การเพ้นท์มือแบบอาหรับ (Henna Tattoo) ลองสูบ มารากู กลิ่นผลไม้ (Shi Sha) ** ชมโชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance) ซึ่งเป็นศิลปะการร่ายรำที่เน้นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อท้องและสะโพก รวมถึงสนุกสนานกับการขี่อูฐ **

รับประทานอาหารค่ำ ณ แค้มป์ซาฟารี

HOLIDAY INN AL MAKTOUM หรือ MILLENIUM JEDDAF หรือเทียบเท่า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านแวะถ่ายรูปด้านนอกกับโรงแรม Burj Al Arab โรงแรมสุดหรูระดับ 7 ดาว รูปทรงคล้ายเรือใบที่งดงามและหรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ริมอ่าวอาหรับ เป็นที่พักอาศัยของเศรษฐีที่มีชื่อเสียงชาวตะวันออกกลาง ถือเป็นสถานที่ที่ทุกคนใฝ่ฝันจะมีโอกาสเข้าไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต จากนั้นชมและช้อปปิ้ง Medinat Jumeirah Souk หรือเรียกว่า เวนิสแห่งดูไบ เป็นตลาดติดแอร์ ตั้งอยู่ในส่วนเดียวกับโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว Mina Al Salam ของตระกูล Al Maktoum ออกแบบและตกแต่งเป็นศิลปะพื้นเมืองแบบอาหรับคลาสสิก ภายในมีสินค้าระดับ Premium มากมาย อาทิ ของที่ระลึก พวงกุญแจ ขวดทราย พรมอิหร่าน หัวน้ำหอม โคมไฟ ของประดับตกแต่งบ้าน ขนมหวาน และถั่วรสช็อกโกแลต เป็นต้น ให้ท่านแวะถ่ายรูปย่านอาคารและท่าเรือบริเวณดูไบมาริน่า Dubai Marina เก็บภาพความทันสมัยของอาคารสวยงามต่างๆ และให้ท่านแวะ Blue Water Island แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของดูไบ ให้ท่านถ่ายภาพอันสวยงามของ Ain Dubai หรือ ชิงช้าสวรรค์แห่งดูไบที่ได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดในโลก

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย

นำท่านเดินทางสู่ ห้างดูไบ (Dubai Mall) ห้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ภายใน ให้ท่านได้ถ่ายรูปหน้าตู้ปลา ที่มีขนาดใหญ่กว่าคนสิบคนยืนเรียงกัน อิสระในห้างให้ท่านได้เลือกซื้อของฝาก สินค้าแบรนด์เนมชื่อดังมากมายจากยุโรป ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี กระเป๋าถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องกีฬา เป็นต้น *** ให้ท่านได้ชมการแสดง “น้ำพุแห่งดูไบ” เป็นน้ำพุเต้นระบำอันสวยงามวิจิตร อยู่ในทะเลสาบเบิร์จคาลิฟา ที่เป็นศูนย์กลางของนครดูไบ ถือเป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ ปัจจุบันนี้ โดยรอบถูกรายล้อมไปด้วยตึกที่มีชื่อเสียงมากมาย สิ่งพิเศษของน้ำพุแห่งดูไบนี้ คือ จะใช้ไฟทั้งสิ้น 6,600 ดวง โปรเจคเตอร์สี 50 ตัว ควบคุมการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยจะแสดงประกอบดนตรี ครั้งละประมาณ 5 นาที โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้นกว่า 7.2 พันล้านบาท *** นำท่านขึ้น “เบิร์จคาลิฟา” Burj Khalifa ชั้น 124 ตึกที่สูงที่สุดในโลก มีความสูงถึง 828 เมตร มีทั้งหมด 160 ชั้น ออกแบบโดยนายเอเดรียน สมิธ สถาปนิกจากชิคาโก ซึ่งคณะจะได้มีโอกาสขึ้นลิฟท์ที่มีความเร็วที่สุดในโลกคือ 18 เมตร ต่อวินาที หรือ 65 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ไปถึงชั้น 124 เพื่อชมวิวจากของนครดูไบได้ทั่วทุกทิศที่สวยงาม โดยตึกนี้ออกแบบตบแต่งภายในโดย Giorgio Armani

สมควรแก่เวลานัดหมายนำท่านเดินทางสู่ สนามบินดูไบ อิสระให้ท่านช้อปปิ้งใน Duty Free เพลิดเพลินกับสินค้าแบรนด์เนม และน้ำหอมยี่ห้อดังมากมาย

ออกเดินทางสู่จากสนามบินดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 374

เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ.