ออสเตรเลียคือดินแดนแห่งความงามทางธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร
เต็มไปด้วยทัศนียภาพที่หลากหลายตั้งแต่ภูเขาสูงไปจนถึงชายฝั่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเช็กอินกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
หากใครเป็นคนชอบการผจญภัยและการชมวิวทิวทัศน์ที่หายากและงดงาม นี่คือ 5
สถานที่ที่ไม่ควรพลาด
1. อุทยานแห่งชาติบลูเม้าท์เท่นส์ (Blue Mountains National Park) หรือที่ได้ฉายาว่า “แกรนด์แคนยอน” แห่งออสเตรเลียหรือ “หุบเขาสีน้ำเงิน” สถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์ของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกโลกของยูเนสโก และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของชาวซิดนีย์ ด้วยผืนแผ่นดินกว้างใหญ่และหน้าผาหินทรายขนาดใหญ่ที่สะท้อนความงามในแสงสีฟ้าของป่ายูคาลิปตัส คือภาพที่คุณจะต้องตรึงใจ
2. เขาสามอนงค์ (Three Sisters) เป็นแท่นหินใหญ่สามก้อนรูปทรงที่แปลกตา โดยเกิดจากการรังสรรค์ของธรรมชาติจากการโดนฝนและลมพัดจนเกิดรูปทรงแบบนี้ และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของออสเตรเลีย แถมยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยตำนานพื้นเมืองที่เล่าถึงสามพี่น้องที่กลายเป็นหิน ถ้าใครชื่นชอบการชมวิวที่ทำให้หัวใจพองโต จุดชมวิว Echo Point จะมอบมุมมองที่ชวนฝันของภูเขาสามยอดนี้พร้อมหุบเขาเบื้องหลัง การมาที่นี่เป็นการเติมเต็มประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อคุณมาเยือนบลูเม้าท์เท่นส์
3. เกาะฟิลิป (Phillip Island) เป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมลเบิร์น เป็นเกาะที่เราจะได้เจอสัตว์ท้องถิ่นออสเตรเลีย หากคุณชื่นชอบสัตว์น่ารัก ๆ คุณต้องไม่พลาดการชม ขบวนพาเหรดของเพนกวิน เดินกลับขึ้นฝั่งเป็นภาพที่อบอุ่นหัวใจมาก ๆ บนเกาะฟิลิป นอกจากสัตว์แล้ว ธรรมชาติที่นี่ก็ถือสวยงามชนิดที่ว่าใครที่มาเที่ยวเมลเบิร์นต้องห้ามพลาดเลย แล้วยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น ฟาร์มสัตว์ป่า ชมวงจรชีวิตของเหล่าเพนกวินน้อย ที่ Novvies Centre พร้อมวิวที่น่าทึ่งของชายฝั่งแถบนี้
4. เกรทโอเชี่ยนโร้ด (Great Ocean Road) ตั้งอยู่ในรัฐวิคตอเรีย
ใกล้เมลเบิร์น เป็นเส้นทางเลียบชายฝั่งที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และมีทัศนียภาพที่งดงามของมหาสมุทรและหน้าผาหินปูนที่ยิ่งใหญ่ตระการตา
และอีก 1 สถานที่มหัศจรรย์อย่าง 12 Apostles กลุ่มเสาหินที่ตั้งตระหง่านริมชายฝั่งกว้างใหญ่
นอกจากนั้นเรายังจะได้พบกับน้องโคอาล่าตามธรรมชาติที่น่ารักอีกด้วย
5. สะพานลอนดอน (London Bridge) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นบนเส้นทางเกรทโอเชี่ยนโร้ด ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยความงดงามตามธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร แม้ว่าโครงสร้างสะพานส่วนหนึ่งจะพังลงในปี 1990 เหลือเพียงซุ้มโค้งหินที่ตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม แต่ความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่สลักเสลาหินเหล่านี้ยังคงดึงดูดใจนักเที่ยว สะพานลอนดอนเดิมเป็นสะพานหินธรรมชาติที่เชื่อมต่อกับชายฝั่งแผ่นดินใหญ่ ก่อนที่แรงคลื่นจากทะเลจะกัดเซาะหินจนกลายเป็นซุ้มสะพานข้ามทะเลที่งดงาม การมาที่สะพานแห่งนี้คุณจะได้สัมผัสกับพลังของธรรมชาติที่ทรงอานุภาพ ซึ่งหล่อหลอมภูมิทัศน์ที่นี่มาเป็นเวลาหลายล้านปี
รับการแจ้งเตือนโปรโมชันใหม่ล่าสุด ส่วนลดพิเศษ และเคล็ดลับท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมายก่อนใคร!
