ถ้าพูดถึงประเทศฝรั่งเศส สิ่งแรกที่นึกถึงก็คงเป็น พระราชวังแวร์ซายส์ (Versailles Palace) หนึ่งในสถานที่ที่ยิ่งใหญ่และงดงามที่สุดของโลก ตั้งอยู่ในเมืองแวร์ซายส์ พระราชวังแห่งนี้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของฝรั่งเศสที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของระบอบกษัตริย์ในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 17 และ 18
(พระราชวังแวร์ซายส์) (พระราชวังแวร์ซายส์) สร้างขึ้นโดย "สุริยกษัตริย์"
พระราชวังแวร์ซายส์ถูกสร้างขึ้นในปี 1661 โดยกษัตริย์ หลุยส์ที่ 14 หรือที่รู้จักกันในนาม "สุริยกษัตริย์" (The Sun King) โดยเดิมทีที่นี่เคยเป็นเพียงแค่กระท่อมล่าสัตว์ แต่ด้วยการขยายและตกแต่งที่ยิ่งใหญ่ ทำให้พระราชวังนี้กลายเป็นศูนย์กลางการปกครองและสังคมของยุโรปในช่วงเวลานั้น
(พระราชวังแวร์ซายส์) (พระราชวังแวร์ซายส์) ความสัมพันธ์ฝรั่งเศส-สยาม
พระราชวังแวร์ซายส์ ยังเป็นสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ระหว่างความสัมพันธ์ฝรั่งเศสและสยาม เมื่อปี 1686 คณะทูตไทยนำโดย ออกพระวิสุทธสุนทร (โกษาปาน) ได้เดินทางไปยังฝรั่งเศส เพื่อเข้าเฝ้า พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ณ พระราชวังแวร์ซายส์ และได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นการแสดงถึงการเชื่อมโยงทางการทูตที่สำคัญระหว่างสองอาณาจักร
(พระราชวังแวร์ซายส์) (พระราชวังแวร์ซายส์) ห้องกระจก อันเลื่องชื่อ
อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญเมื่อเราเดินเข้ามาภายในพระราชวัง เราจะพบกับ “ห้องกระจก” ที่มีชื่อเสียงที่สุด ภายในห้องนี้เต็มไปด้วยกระจกจำนวนกว่า 357 บาน ที่สะท้อนแสงจากสวนด้านนอกอย่างงดงาม สะท้อนถึงความมั่งคั่งและอำนาจของฝรั่งเศสในสมัยนั้น ห้องกระจกยังเป็นสถานที่ที่มีการลงนามใน สนธิสัญญาแวร์ซายส์ ที่ยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 อีกด้วย
(พระราชวังแวร์ซายส์) (พระราชวังแวร์ซายส์) สวนแวร์ซายส์ ผลงานชิ้นเอก
นอกจากพระราชวังที่สวยงามแล้ว ยังมี สวนแวร์ซายส์ ที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,000 เอเคอร์ เต็มไปด้วยพุ่มไม้ รูปปั้น และน้ำพุที่โดดเด่น สวนถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันโดยสถาปนิกภูมิทัศน์ชื่อดัง อังเดร เลอ นอทร์
(พระราชวังแวร์ซายส์) (พระราชวังแวร์ซายส์) มรดกโลก UNESCO
ปัจจุบัน พระราชวังแวร์ซายส์เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ผู้มาเยือนสามารถสำรวจความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมทั้งภายในและภายนอก รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสในยุคของกษัตริย์ได้อย่างใกล้ชิด