“ตุรเคีย” หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า “ตุรกี”
เป็นประเทศสองทวีป เพราะมีดินแดนอยู่บนสองทวีปก็คือเอเชียและยุโรป
โดยในฝั่งทวีปเอเชียนั้นจะเรียกว่า อนาโตเลีย (Anatolia) ส่วนพื้นที่ทางฝั่งยุโรปจะเรียกว่า
เทรซ (Thrace) ตรุเคียเป็นประเทศที่มีสถานท่องเที่ยวครบทุกด้าน
ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติที่สวยงาม อารยธรรมโบราณที่น่าค้นหา
และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สวยงาม
วันนี้เราจึงจะมาแนะนำสถานที่ที่ไปตุรเคียแล้วห้ามพลาด
ฮิปโปโดรม (Hippodrome)
ฮิปโปโดรมแห่งคอนสแตนติโนเปิล
หรือจัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด ที่เป็นสนามแข่งม้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและยังเคยเป็นสนามแข่งรถม้าของจักรวรรดิโรมันตะวันออก
ที่นี่ไม่เพียงเป็นสนามแข่งรถม้าที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักร
แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางศาสนา การเมืองและสังคมในอดีต
นอกจากนี้ในปัจจุบันยังคงมีเสาที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญให้ผู้มาเยือนสัมผัสกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองในสมัยก่อน
อาทิ “เสาโอเบลิสก์แห่งธีโอโดซิอุส” โดยเสาหินโอเบลิสก์นี้สร้างขึ้นในอียิปต์โบราณ
หรือเสางูที่มีลักษณะเป็นงูสามตัวที่ถักกันขึ้นไปสู่ยอดเดิม
สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque)
จากฮิปโปโดรมเดินเพียงไม่กี่ก้าว
คุณจะพบกับสุเหร่าสีน้ำเงิน (Sultan Ahmed Mosque) หนึ่งในสัญลักษณ์ของอิสตันบูล
ที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1609-1616 ชื่อเดิมคือสุเหร่าสุลต่านห์อาร์เหม็ดที่ 1
เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมที่สวยงาม
เพราะเป็นสถานที่ที่ก่อสร้างจากสถาปัตยกรรมของสองอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์
นั่นคืออาณาจักรโรมัน (Roman) และอาณาจักรออตโตมัน (Ottoman) ภายในประดับด้วยกระเบื้องสีน้ำเงินกว่า
20,000 แผ่น นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างถึง 260
บานสลับกับการตกแต่งของกระจกสีอย่างสวยงามและมีโดมสูงสวยงาม
สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวอย่างมาก
สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Hagia Sophia)
ตรงข้ามสุเหร่าสีน้ำเงินคือสุเหราเซนต์โซเฟีย
สุเหร่าและโบสถ์เก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,500 ปี แถมยังเป็น 1 ใน 7
สิ่งมหัศจรรย์ของโลกลำดับที่ 8 ในยุคกลาง
เดิมสุเหราเซนต์โซเฟียแห่งนี้เคยเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์มามากกว่า 900 ปี ต่อมา
สุเหร่าโซเฟียก็ถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์และกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและยอดนิยมของประเทศตุรเคีย
ด้วยการออกแบบภายในประดับด้วยโมเสคทองคำและโค้งโคมไฟที่สง่างาม
และอีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่ก็คือโดมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกนั้นเอง
ม้าไม้จำลองแห่งเมืองทรอย (Trojan Horse)
สัมผัสเรื่องราวในตำนานที่ม้าไม้จำลองแห่งเมืองทรอย หนึ่งในตำนานกรีกโบราณที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ในเมืองชานัคคาเล่ ซึ่งม้าไม้จำลองนี้เป็นม้าขนาดใหญ่ที่ทางกองทัพกรีกใช้คิดแผนการเพื่อที่จะตีกรุงทรอย ด้วยวิธีการเอาทหารเข้าไปหลบอยู่ข้างในแล้วทำทีเป็นถอยทัพ เพื่อที่เวลาตกดึกทหารที่อยู่ในม้าไม้จะได้ออกมาโจมตีกรุงทรอยนั่นเอง อีกทั้งยังเป็นม้าไม้ที่วอเนอร์ บราเธอร์ ใช้ถ่ายทำละคร เรื่องทรอย อีกด้วย ทำให้ที่นี่เป็นที่ที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และวรรณกรรม
เมืองโบราณเอเฟซุส (Ephesus)
เมืองโบราณเอเฟซุส มรดกโลกในตุรเคีย
เป็นเมืองโบราณเก่าแก่ที่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่ากำเนิดขึ้นในสมัยใด
แต่นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 14 ก่อนคริสตกาล
จากนั้นอีกพันปีก็ได้เป็นอารยธรรมของกรีกและโรมัน
จึงทำให้ที่นี่เคยเป็นเมืองสำคัญในสมัยโรมันอันรุ่งเรือง
โดยยังคงมีสิ่งก่อสร้างสำคัญอย่างห้องสมุดเซลซุส
ที่อดีตเคยเจอแผ่นดินไหวใหญ่จนพังถล่มในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566
ที่ผ่านมาก่อนที่จะบูรณะขึ้นมาใหม่
จนกลายเป็นไฮไลท์ของแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศตุรเคียที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกปักหมุดไว้
ปามุคคาเล่ (Pamukkale) – ปราสาทปุยฝ้าย
ปามุคคาเล่ ที่ถูกขนานนามว่าเป็น
"ปราสาทปุยฝ้าย"
ด้วยภูมิทัศน์สีขาวราวกับหิมะของบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ก่อเกิดจากการสะสมของแร่ธาตุคาร์บอเนต
น้ำแร่ที่ไหลลงมาตามชั้นหิน เป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้างสรรค์ขึ้นเป็นเวลานับพัน
ๆ ปี แถมยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามและโดดเด่น
จนทำให้ปามุกคาเล่และเมืองเฮียราโพสิลได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี
ค.ศ. 1988 และอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ที่นี่โด่งดังก็คือ
น้ำแร่ที่ปามุคคาเลแห่งนี้
ที่ได้รับความเชื่อถือมาตั้งแต่โบราณกาลว่าสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้
ทำให้มีผู้คนเดินทางหรือนักท่องเที่ยวมาใช้น้ำแร่เพื่อบำบัดรักษาโรคกันเป็นจำนวนมาก
เมืองโบราณเฮียราโพลิส (Hierapolis)
เมืองโบราณเฮียราโพลิส ที่อยู่ไม่ไกลจากปามุคคาเล่ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับบ่อน้ำพุร้อน เป็นเมืองโบราณที่มีอายุเก่าแก่ถึง 2,200 ปี ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงราว 200 เมตร และได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้วยเช่นกัน ซึ่งเมืองนี้เคยเป็นสถานที่ตากอากาศของชาวโรมันและยังคงมีซากโบราณสถานเช่นโรงละครและโบสถ์ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวโรมันในอดีต
คัปปาโดเกีย (Cappadocia) และนครใต้ดิน
(Underground City)
หนึ่งในสถานที่ที่โดดเด่นที่สุดในตุรเคียคือ
คัปปาโดเกีย เมืองนี้เป็นพื้นที่ลักษณ์พิเศษมาก ๆ จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม
โดยยูเนสโก เมื่อปีค.ศ.1985 พื้นที่นี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 3
ล้านปีก่อน ที่ทำให้ลาวาและเถ้าถ่านทับถมกันจนเกิดเป็นพื้นดินชั้นใหม่ขึ้นมา
ที่เราเรียกกันว่าหินทูฟา ทำให้เมืองนี้เหมือนเมืองในเทพนิยาย
ด้วยภูมิทัศน์ทางธรรมชาติ
รับการแจ้งเตือนโปรโมชันใหม่ล่าสุด ส่วนลดพิเศษ และเคล็ดลับท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมายก่อนใคร!