สำรวจ ตุรเคีย หรือ ตุรกี ที่เป็นแหล่งรวมของวัฒนธรรมและธรรมชาติที่งดงาม ตั้งอยู่บนสองทวีป มาท่องเที่ยวกับสถานที่ห้ามพลาดอย่างฮิปโปโดรมและสุเหร่าสีน้ำเงินที่สะท้อนประวัติศาสตร์อันยาวนาน สัมผัสความยิ่งใหญ่ของสุเหราเซนต์โซเฟีย และไม่ควรพลาดเมืองโบราณเอเฟซุส
  • : 02-246-5888

สัมผัสความงดงามแห่งตุรเคีย: สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องเยือน

สำรวจ ตุรเคีย หรือ ตุรกี ที่เป็นแหล่งรวมของวัฒนธรรมและธรรมชาติที่งดงาม ตั้งอยู่บนสองทวีป มาท่องเที่ยวกับสถานที่ห้ามพลาดอย่างฮิปโปโดรมและสุเหร่าสีน้ำเงินที่สะท้อนประวัติศาสตร์อันยาวนาน สัมผัสความยิ่งใหญ่ของสุเหราเซนต์โซเฟีย และไม่ควรพลาดเมืองโบราณเอเฟซุส

สัมผัสความงดงามแห่งตุรเคีย: สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องเยือน

“ตุรเคีย” หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า “ตุรกี” เป็นประเทศสองทวีป เพราะมีดินแดนอยู่บนสองทวีปก็คือเอเชียและยุโรป โดยในฝั่งทวีปเอเชียนั้นจะเรียกว่า อนาโตเลีย (Anatolia) ส่วนพื้นที่ทางฝั่งยุโรปจะเรียกว่า เทรซ (Thrace) ตรุเคียเป็นประเทศที่มีสถานท่องเที่ยวครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติที่สวยงาม อารยธรรมโบราณที่น่าค้นหา และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สวยงาม วันนี้เราจึงจะมาแนะนำสถานที่ที่ไปตุรเคียแล้วห้ามพลาด

ฮิปโปโดรม
(ฮิปโปโดรม)

1. ฮิปโปโดรม (Hippodrome)

ฮิปโปโดรมแห่งคอนสแตนติโนเปิล หรือจัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด ที่เป็นสนามแข่งม้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและยังเคยเป็นสนามแข่งรถม้าของจักรวรรดิโรมันตะวันออก ที่นี่ไม่เพียงเป็นสนามแข่งรถม้าที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักร แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางศาสนา การเมืองและสังคมในอดีต นอกจากนี้ในปัจจุบันยังคงมีเสาที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญให้ผู้มาเยือนสัมผัสกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองในสมัยก่อน อาทิ “เสาโอเบลิสก์แห่งธีโอโดซิอุส” โดยเสาหินโอเบลิสก์นี้สร้างขึ้นในอียิปต์โบราณ หรือเสางูที่มีลักษณะเป็นงูสามตัวที่ถักกันขึ้นไปสู่ยอดเดิม

สุเหร่าสีน้ำเงิน
(สุเหร่าสีน้ำเงิน)

2. สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque)

จากฮิปโปโดรมเดินเพียงไม่กี่ก้าว คุณจะพบกับสุเหร่าสีน้ำเงิน (Sultan Ahmed Mosque) หนึ่งในสัญลักษณ์ของอิสตันบูล ที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1609-1616 ชื่อเดิมคือสุเหร่าสุลต่านห์อาร์เหม็ดที่ 1 เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เพราะเป็นสถานที่ที่ก่อสร้างจากสถาปัตยกรรมของสองอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ นั่นคืออาณาจักรโรมัน (Roman) และอาณาจักรออตโตมัน (Ottoman) ภายในประดับด้วยกระเบื้องสีน้ำเงินกว่า 20,000 แผ่น นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างถึง 260 บานสลับกับการตกแต่งของกระจกสีอย่างสวยงามและมีโดมสูงสวยงาม สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวอย่างมาก

สุเหราเซนต์โซเฟีย
(สุเหราเซนต์โซเฟีย)

3. สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Hagia Sophia)

ตรงข้ามสุเหร่าสีน้ำเงินคือสุเหราเซนต์โซเฟีย สุเหร่าและโบสถ์เก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,500 ปี แถมยังเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกลำดับที่ 8 ในยุคกลาง เดิมสุเหราเซนต์โซเฟียแห่งนี้เคยเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์มามากกว่า 900 ปี ต่อมา สุเหร่าโซเฟียก็ถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์และกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและยอดนิยมของประเทศตุรเคีย ด้วยการออกแบบภายในประดับด้วยโมเสคทองคำและโค้งโคมไฟที่สง่างาม และอีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่ก็คือโดมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกนั้นเอง

ม้าไม้จำลองแห่งเมืองทรอย
(ม้าไม้จำลองแห่งเมืองทรอย)

4. ม้าไม้จำลองแห่งเมืองทรอย (Trojan Horse)

สัมผัสเรื่องราวในตำนานที่ม้าไม้จำลองแห่งเมืองทรอย หนึ่งในตำนานกรีกโบราณที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ในเมืองชานัคคาเล่ ซึ่งม้าไม้จำลองนี้เป็นม้าขนาดใหญ่ที่ทางกองทัพกรีกใช้คิดแผนการเพื่อที่จะตีกรุงทรอย ด้วยวิธีการเอาทหารเข้าไปหลบอยู่ข้างในแล้วทำทีเป็นถอยทัพ เพื่อที่เวลาตกดึกทหารที่อยู่ในม้าไม้จะได้ออกมาโจมตีกรุงทรอยนั่นเอง อีกทั้งยังเป็นม้าไม้ที่วอเนอร์ บราเธอร์ ใช้ถ่ายทำละคร เรื่องทรอย อีกด้วย ทำให้ที่นี่เป็นที่ที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และวรรณกรรม

เมืองโบราณเอเฟซุส
(เมืองโบราณเอเฟซุส)

5. เมืองโบราณเอเฟซุส (Ephesus)

เมืองโบราณเอเฟซุส มรดกโลกในตุรเคีย เป็นเมืองโบราณเก่าแก่ที่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่ากำเนิดขึ้นในสมัยใด แต่นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 14 ก่อนคริสตกาล จากนั้นอีกพันปีก็ได้เป็นอารยธรรมของกรีกและโรมัน จึงทำให้ที่นี่เคยเป็นเมืองสำคัญในสมัยโรมันอันรุ่งเรือง โดยยังคงมีสิ่งก่อสร้างสำคัญอย่างห้องสมุดเซลซุส ที่อดีตเคยเจอแผ่นดินไหวใหญ่จนพังถล่มในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมาก่อนที่จะบูรณะขึ้นมาใหม่ จนกลายเป็นไฮไลท์ของแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศตุรเคียที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกปักหมุดไว้

ปามุคคาเล่
(ปามุคคาเล่)

6. ปามุคคาเล่ (Pamukkale) – ปราสาทปุยฝ้าย

ปามุคคาเล่ ที่ถูกขนานนามว่าเป็น "ปราสาทปุยฝ้าย" ด้วยภูมิทัศน์สีขาวราวกับหิมะของบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ก่อเกิดจากการสะสมของแร่ธาตุคาร์บอเนต น้ำแร่ที่ไหลลงมาตามชั้นหิน เป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้างสรรค์ขึ้นเป็นเวลานับพัน ๆ ปี แถมยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามและโดดเด่น จนทำให้ปามุกคาเล่และเมืองเฮียราโพสิลได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 และอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ที่นี่โด่งดังก็คือ น้ำแร่ที่ปามุคคาเลแห่งนี้ ที่ได้รับความเชื่อถือมาตั้งแต่โบราณกาลว่าสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ ทำให้มีผู้คนเดินทางหรือนักท่องเที่ยวมาใช้น้ำแร่เพื่อบำบัดรักษาโรคกันเป็นจำนวนมาก

 เมืองโบราณเฮียราโพลิ
( เมืองโบราณเฮียราโพลิ)

7. เมืองโบราณเฮียราโพลิส (Hierapolis)

เมืองโบราณเฮียราโพลิส ที่อยู่ไม่ไกลจากปามุคคาเล่ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับบ่อน้ำพุร้อน เป็นเมืองโบราณที่มีอายุเก่าแก่ถึง 2,200 ปี ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงราว 200 เมตร และได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้วยเช่นกัน ซึ่งเมืองนี้เคยเป็นสถานที่ตากอากาศของชาวโรมันและยังคงมีซากโบราณสถานเช่นโรงละครและโบสถ์ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวโรมันในอดีต

คัปปาโดเกีย
(คัปปาโดเกีย)

8. คัปปาโดเกีย (Cappadocia) และนครใต้ดิน (Underground City)

หนึ่งในสถานที่ที่โดดเด่นที่สุดในตุรเคียคือ คัปปาโดเกีย เมืองนี้เป็นพื้นที่ลักษณ์พิเศษมาก ๆ จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยยูเนสโก เมื่อปีค.ศ.1985 พื้นที่นี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 3 ล้านปีก่อน ที่ทำให้ลาวาและเถ้าถ่านทับถมกันจนเกิดเป็นพื้นดินชั้นใหม่ขึ้นมา ที่เราเรียกกันว่าหินทูฟา ทำให้เมืองนี้เหมือนเมืองในเทพนิยาย ด้วยภูมิทัศน์ทางธรรมชาติ

ท่องเที่ยว

แท็กยอดนิยม

Subscribe ติดตามข่าวสาร

รับการแจ้งเตือนโปรโมชันใหม่ล่าสุด ส่วนลดพิเศษ และเคล็ดลับท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมายก่อนใคร!